คุยกับ Chuck วง Simple Plan ถึงคอนเสิร์ตในไทย และสิ่งที่อยากบอกกับแฟนๆ ที่โตมาด้วยกัน
กำลังมองหาที่ ซื้อหวยออนไลน์ ใช่ไหมคะ? มาที่นี้เลย DINGDONG หวยออนไลน์ ผู้ให้บริการ ซื้อหวยออนไลน์ เปิดขายตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีเลขปิดรับ ไม่มีเลขอั้น 900/95 ทุกประเภท หวยออนไลน์ บนเว็บ
วัยรุ่นของหลายคนโตมากับเพลงป็อปพังค์เยียวยาใจวัยรุ่นของ Simple Plan มีอะไรที่พวกเขาอยากจะอยากบอกกับพวกเราบ้าง มาอ่านกัน
Simple Plan เป็นหนึ่งในวงป็อปพังค์ยุค 2000 ที่แฟนเพลงชาวไทยบ้านเราคุ้นชื่อคุ้นหน้าคุ้นตากันดี และที่คุ้นยิ่งกว่าคือคุ้นหู เพราะเชื่อได้เลยว่าไม่มีวัยรุ่นยุค Y2K คนไทยที่ไม่เคยฟังเพลงของ Simple Plan ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนเพลงแนวป็อปพังค์หรือไม่ก็ตาม ถ้าขึ้นอินโทรเพลง “Shut Up” หรือ “Perfect” ขึ้นมารับรองว่าต้องร้องอ๋อ
Simple Plan Live in Bangkok 2023 ในวันที่ 14 มี.ค. ที่ผ่านมา เป็นคอนเสิร์ตในรอบ 7 ปีของ Simple Plan เชื่อว่าแฟนๆ ชาวไทยต้องคิดถึงพวกเขามากแน่ๆ
- รีวิวคอนเสิร์ต Simple Plan รวมตัว(อดีต)วัยรุ่นชีวิตเจ็บปวดที่โตมาเป็นผู้ใหญ่ด้วยกัน โดดยับจนลืมแก่
การเติบโตของ Simple Plan มาพร้อมกับแฟนเพลงที่อายุก็เปลี่ยนจากหลัก 10 เป็น 20 และหลายๆ คนอาจจะไปที่หลัก 30, 40 กันเยอะแล้ว รวมถึงตัวศิลปินเองด้วย ใครที่เคยมีเพลงของ Simple Plan เป็น sountrack ประจำชีวิตวัยรุ่น มาอ่านบทสัมภาษณ์สุด exclusive ของ Sanook ที่ได้สัมภาษณ์ Chuck Comeau มือกลองสุดเท่ของ Simple Plan กันดีกว่า
ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทยนะ! ฉันเคยดูคอนเสิร์ตของพวกคุณในปี 2008 ที่คุณได้ขึ้นโชว์ร่วมกับ Travis (ตอนนั้นยังเรียนอยู่เลย!) แล้วพวกคุณจำครั้งล่าสุดที่มาเมืองไทยกันได้ไหม เมืองไทยตอนนั้นแตกต่างจากตอนนี้มากน้อยแค่ไหน
Chuck: ขอบคุณครับ! (ภาษาไทย) เป็นเกียรติมากๆ เลยที่ได้กลับมาที่ประเทศไทยครับ โชว์ในครั้งนี้ที่ผ่านมายอดเยี่ยมมากๆ ส่วนคอนเสิร์ตเมื่อปี 2008 ที่พวกเราขึ้นเวทีเดียวกันกับ Travis ผมก็ยังจำได้อยู่ครับ โชว์ในครั้งนั้นแตกต่างจากโชว์ในครั้งนี้นิดหน่อย ตรงที่ตอนนั้นมีแฟนเพลงจากทั้งสองวง แต่ครั้งนี้มีแต่พวกเราวงเดียว
คอนเสิร์ตครั้งนี้มันยอดเยี่ยมมากๆ ที่ทำให้พวกเราได้กลับมาเจอแฟนๆ อีกครั้งหลังโรคระบาด จริงๆ พวกเราไม่ได้อยากให้แฟนๆ ในไทยรอนานหลายปีมากขนาดนี้เลยจริงๆ แต่สุดท้ายพวกเราก็ดีใจมากที่แฟนๆ ยังคงรอคอยที่จะให้พวกเรากลับมาหาอยู่ หรืออาจจะมีแฟนเพลงหน้าใหม่ๆ ที่เพิ่งรู้จักพวกเราเพิ่มเข้ามาด้วย โชว์ครั้งนี้เลยพิเศษมากจริงๆ ครับ
แต่นับย้อนไปนานมากๆ พวกเราเคยมาประเทศไทยในปี 2002 ซึ่งมันก็นานมากๆ แล้วจริงๆ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พวกเราได้ทัวร์กัน แล้วเราก็ได้รู้ว่าที่นี่มีแฟนเพลงแนว old-school และแฟนเพลงตัวยงที่รักพวกเรามากๆ อยู่มาก รวมถึงมีแฟนเพลงกลุ่มใหม่ที่เพิ่งรู้จักพวกเราด้วย พวกเราเลยวางแผนที่จะมาเมืองไทยให้บ่อยขึ้นในอนาคต มาให้บ่อยกว่าเมื่อก่อนเลยครับ
มาไทยคราวนี้ พวกคุณมาพร้อมกับอัลบั้มใหม่ Harder Than It Looks ปล่อยออกมาหลังจากปล่อยอัลบั้ม Taking One for the Team ราวๆ 6 ปี ทำไมถึงตัดสินใจปล่อยอัลบั้มใหม่หลังจากผ่านไปนานขนาดนั้น
Chuck: เหตุผลที่พวกเราใช้เวลากว่า 6 ปีระหว่างสองอัลบั้มนี้ เพราะพวกเราใช้เวลานานมากขึ้นในการทำอัลบั้ม พวกเราใช้ความภูมิใจอย่างมากที่จะบรรจงแต่งเพลงแต่ละเพลงในอัลบั้มเพื่อให้แน่ใจว่าอัลบั้มนี้จะออกมาดีเท่าที่จะเป็นได้ สิ่งที่สำคัญต่อพวกเรามากครับ พวกเราไม่ได้ทำเพลงกันแบบแค่ขอไปที เราอยากจะปล่อยเพลงที่พิเศษ ที่แฟนๆ จะชอบกันจริงๆ เราเลยใช้เวลาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
แต่จริงๆ แล้ว Harder Than It Looks ทำเสร็จตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 แล้วครับ แต่อย่างที่ทุกคนรู้กัน เราเจอปัญหาโรคระบาด ทำให้พวกเรากลับมาถามตัวเองว่า เราอยากจะปล่อยอัลบั้มใหม่ตอนนี้เลย หรือจะรอเพื่อที่จะได้ทัวร์ โปรโมตดีๆ และออกเดินทางไปทั่วโลกเพื่อเล่นเพลงในอัลบั้มให้แฟนๆ ฟัง พวกเราเลยตัดสินใจเลือกในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดสำหรับพวกเรา นั่นคือการรอก่อน พวกเรามีครอบครัวที่บ้าน และลูกๆ ยังต้องไปโรงเรียน เราไม่อาจโฟกัสไปที่การออกอัลบั้มและทำงานทุกอย่างในตอนนั้นรวมถึงการดูแลครอบครัวในช่วงนั้นไปด้วยได้ เราก็เลยตัดสินใจที่จะรอ และมันก็ออกจะนานเกินกว่าที่เราคาดกันไว้นิดหน่อย แต่สุดท้ายมันก็เวิร์คนะ
ในช่วงที่เกิดโรคระบาด เราได้มีชาเลนจ์ “I’m Just A Kid” ที่ทำให้พวกเรากลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง และมีแฟนเพลงหน้าใหม่หลายคนได้เข้ามาทำความรู้จักและฟังเพลงของพวกเรา แล้วดนตรีป็อปพังค์ก็กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง เป็นการฟื้นคืนของยุคป็อปพังค์ที่ยิ่งใหญ่เลยล่ะ ดังนั้นพวกเราก็เลยคิดว่า นี่แหละ ช่วงเวลาที่เหมาะที่สุดในการกลับมาอีกครั้ง บางครั้งก็ต้องปล่อยให้อะไรๆ เป็นไปตามโชคชะตาบ้างเหมือนกัน
ผลตอบรับของแฟนๆ ก็ค่อนข้างดี ทำให้พวกเรามีความสุขมากครับ หวังว่าเพลงใหม่ของพวกเราจะปล่อยเพิ่มเติมออกมาอีกเร็วๆ นี้ และแฟนๆ (ที่เมืองไทย) ไม่ต้องรอนานถึง 6 ปีที่จะได้ดูคอนเสิร์ตของพวกเราอีกนะครับ!
ปกติแล้ว พวกคุณใช้วิธีอะไรในการเลือกช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการปล่อยเพลงใหม่ อัลบั้มใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นการกลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนานๆ
Chuck: ปกติแล้วพวกเราพยายามปล่อยเพลงออกมาให้เร็วที่สุดเมื่อไรก็ตามที่พวกเราทำเสร็จอย่างภาคภูมิใจเลยครับ พวกเราอยากรีบเปิดให้เพื่อนๆ ฟัง ไม่เคยมีช่วงเวลาดีๆ สำหรับอัลบั้มที่แย่ และไม่เคยมีช่วงเวลาแย่ๆ กับอัลบั้มดีๆ พวกเรารู้สึกว่าอัลบั้ม Harder Than It Looks เป็นอัลบั้มที่พิเศษ และพวกเราก็มีความรู้สึกดีๆ ว่าแฟนๆ น่าจะชอบกัน พวกเราหวังไว้อยู่เสมอว่าพวกเราจะสามารถปล่อยเพลงใหม่ อัลบั้มใหม่ออกมาได้เร็วกว่านี้ แต่เราก็จะแน่ใจว่าเพลงแต่เพลงอยู่ในระดับที่เท่ากันกับเพลงที่พวกเราเคยทำกันมาตลอดชีวิตการเป็นศิลปินที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นบางครั้งมันเลยใช้เวลานานนิดนึงครับ
อัลบั้ม Harder Than It Looks แตกต่างจากอัลบั้มที่แล้วอย่างไรบ้าง
Chuck: กับอัลบั้ม Harder Than It Looks พวกเราอยากจะสร้างอัลบั้มที่เป็นอัลบั้มแสดงตัวตนความเป็น Simple Plan ออกมามากที่สุด พวกเราอยากจะทำอัลบั้มที่พวกเรารวบรวบสิ่งที่เราชอบที่สุดในการเป็นวง Simple Plan ออกมา รวมถึงสิ่งที่แฟนๆ ชอบมากที่สุดในตัว Simple Plan ออกมารวมกัน แล้วสร้างออกมาเป็น Simple Plan ในเวอร์ชั่นที่อัปเดต พวกเราใช้พลังงานอย่างมากไปกับการอัดอัลบั้มแรก ในอัลบั้มที่ 2 เราใช้อารมณ์เพลงร็อคในอารีน่าใหญ่มาสร้างสรรค์ออกมา อัลบั้มที่ 3 เราให้อารมณ์ต่างๆ นำพาแต่เพลงออกมา ส่วนอัลบั้มที่ 4 และ 5 เป็นอารมณ์สนุกๆ จากอัลบั้มทั้งหมดที่ผ่านมาพวกเรานำมารวมกันและสร้างออกมาเป็น Simple Plan ที่พวกเรารู้สึกในปี 2023
พวกเราไม่ได้อยากจะก็อปปี้อัลบั้ม No Pads, No Helmets… Just Balls เมื่อ 20 ปีที่แล้ว หรือทำอัลบั้มออกมาเหมือนกับเพลงที่ปล่อยออกมาในช่วงปี 2003 หรือ 2004 เราแค่อยากเอาแรงบันดาลใจจากดนตรีในช่วงนั้นมาสร้างสรรค์ออกมาเป็นแนวดนตรีที่เกิดขึ้นอยู่ในตอนนี้ เป็นเพลงแนวสมัยใหม่ที่คนฟังกันอยู่ตอนนี้ ผมว่าพวกเราทำได้สำเร็จผ่านอัลบั้มนี้ และผมก็ภูมิใจกับอัลบั้มนี้มากๆ ผมคิดว่าแฟนๆ ก็น่าจะชอบเหมือนกัน
พวกเราสนุกกันมากที่ได้เล่นเพลงใหม่ๆ สดๆ บนเวที คุณจะรู้ได้เองจากการที่คุณเล่นเพลงเหล่านั้นบนเวทีแล้วได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ ได้เห็นแฟนๆ ถือป้าย “You’re The Antidote” (คอนเสิร์ตในเมืองไทย) คุณบอกได้เลยว่าแฟนๆ ยอมรับในเพลงใหม่ ไม่ใช่แค่เพลงในอัลบั้มแรกๆ พวกเราชอบเล่นเพลงฮิตกันอยู่แล้ว แต่ก็อยากให้แฟนๆ รักเพลงใหม่ของพวกเราด้วย และผมคิดว่ามันเกิดขึ้นแล้ว เป็นสถานการณ์ที่ดีที่สุดที่เกิดขึ้นกับพวกเราจริงๆ
พวกคุณเป็นวง Simple Plan กันมาตั้งหลายปี อะไรที่ทำให้พวกคุณยังคงอยู่ด้วยกันจนถึงทุกวันนี้
Chuck: ผมว่าพวกเรายังมีแรงกระตุ้น และยังมีแรงบันดาลใจในการทำงานอยู่ เรายังสนุกกับการทำเพลง และการแต่งเพลงใหม่ เรายังรู้สึกว่ายังมีสิ่งที่พวกเราอยากทำให้สำเร็จอยู่ แล้วพวกเราก็ยังสนุกที่ยังอยู่ด้วยกันในวง ผมว่าพวกเรารู้ตัวว่าพวกเราได้ทำสิ่งที่พิเศษร่วมกันมากกว่าแต่ก่อนเสียอีก
ตลอดระยะเวลา 22 ปีที่อยู่ในวงนี้ พวกเรามีแฟนที่อยู่กับพวกเรามาตั้งแต่วันแรก พวกเรามีแฟนเพลงที่ยังคงต้องการวงนี้อยู่ และต้องการเพลงใหม่ๆ ที่จะฟังต่อๆ ไป พวกเขาชอบบอกพวกเราว่า “อยากฟังเพลงใหม่มากเลย ชีวิตฉันกำลังลำบาก อยากฟังเพลงใหม่ๆ สุดๆ” นี่เลยเป็นสิ่งที่สร้างแรงบันดาลใจให้พวกเรายังคงทำเพลงต่อไป พวกเรารู้ว่าเพลงของพวกเราเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตใครหลายๆ คน พวกเขาอยากฟังพวกเราเล่นสด และปลดปล่อยตัวเองในช่วงเวลานั้น พวกเราเลยอยากอยู่ตรงนั้นเพื่อพวกเขา และเล่นดนตรีต่อไป
จริงๆ แล้วมันก็ย้อนกลับมาที่ข้อเท็จจริงที่ว่า พวกเรายังคงไปด้วยกันได้ดี ยังสนุกกับการได้เล่นดนตรี และเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตด้วยกันอยู่ แม้ว่าตอนนี้อะไรหลายๆ อย่างจะเปลี่ยนไป พวกเรามีครอบครัวแล้ว แต่ในเวลาเดียวกัน ผมคิดว่าหลังเกิดโรคระบาด พวกเราตระหนักได้ว่าสิ่งที่พวกเราทำกันอยู่มันพิเศษมาก และพวกเราโชคดีมากที่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ พวกเราเลยอยากรักษาสิ่งนี้เอาไว้แล้วทำต่อไปครับ
อย่างที่คุณบอกว่ามีแฟนเพลงมากมายที่โตมากับเพลงของคุณ เพราะเพลง Simple Plan เป็นตัวแทนของช่วงวัยรุ่น พูดถึงสิ่งที่วัยรุ่นเคยเจอ เคยรู้สึก เช่นในเพลง “I’m Just A Kid”, “Welcome to My Life” หรือ “Perfect” ตอนนี้แฟนๆ ที่เคยเป็นวัยรุ่นได้เติบโตมีหน้าที่การงาน มีครอบครัวกันหมดแล้ว คุณอยากจะบอกอะไรกับพวกเขาที่ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากสมัยวัยรุ่นมาได้ด้วยบทเพลงของพวกคุณบ้างไหม
Chuck: พวกเราโชคดีมากที่บทเพลงของพวกเราเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของใครหลายๆ คน และช่วยให้พวกเขาก้าวข้ามผ่านความยากลำบากต่างๆ ในชีวิตกันมาได้หลายปี ไม่มีคำชมดีไปกว่าการได้ยินใครสักคนพูดว่า “ฉันคิดว่าฉันคงผ่านทุกอย่างมาไม่ได้ ถ้าไม่มีเพลงของพวกคุณ” หรือ “พวกคุณช่วยให้ฉันผ่านพ้นช่วงที่ยากลำบากมาได้จริงๆ” ดังนั้นผมคิดว่าน่าสนใจมากที่ได้เห็นแฟนๆ ที่เติบโตจากวัยรุ่นไปสู่วัยผู้ใหญ่ และมีลูกมีครอบครัวของพวกเขาเองแล้วในตอนนี้ ผมหวังว่าเพลงเหล่านั้นจะสะท้อนไปถึงพวกเขาด้วย
เมื่อคุณแก่ขึ้น คุณก็อาจจะยังคงเผชิญกับปัญหาเดิมๆ ที่คุณเคยเจอได้ เหมือนตอนที่เคยอกหักตอนวัยรุ่น แล้วตอนนี้คุณอาจกำลังจะหย่า หรือมีปัญหากับคู่ของคุณ หรืออาจจะยังคงมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีนักกับพ่อแม่ของคุณเหมือนเมื่อ 20 ปีก่อน และในตอนนี้ที่คุณเป็นพ่อแม่คนเสียเอง คุณก็อาจจะมีปัญหากับลูกของคุณเองก็ได้ ผมเลยคิดว่าเพลงที่พูดถึงเรื่องเหล่านี้เมื่อ 20 ปีก่อน มันก็ยังกลับมาเกิดขึ้นได้ในช่วงชีวิตของคุณตอนนี้ เพลงที่คุณเคยฟังอาจจะมีความหมายต่อคุณที่เปลี่ยนไป ทำให้คุณกลับมาคิดได้ในอีกแง่มุมนึงเมื่อคุณฟังในวัยที่โตขึ้น
ตอนที่เราทำเพลงในอัลบั้มล่าสุดนี้ เราพยายามจะแน่ใจว่าเรากำลังคุยในเรื่องเดียวกันอยู่ แต่ในมุมมองที่โตขึ้น และสอดคล้องไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงกับพวกเรามนปัจจุบัน ดังนั้นสำหรับใครก็ตามที่กำลังประสบกับความยากลำบากในชีวิตตอนนี้ ผมอยากจะบอกว่าให้เดินหน้าต่อไป ไม่ว่ามันจะจบลงอย่างไร อะไรที่ไม่ได้ทำให้คุณถึงตาย จะทำให้คุณเข้มแข็งได้มากกว่าเดิมในหลากหลายวิธี เมื่อไรก็ตามที่คุณเจอกับความยากลำบาก หวังว่าคุณจะมองย้อนกลับมา แล้วคิดได้ว่า “สิ่งนี้ทำให้ฉันเป็นคนที่ดีขึ้น ทำให้ฉันฟื้นคืนกลับมาใหม่ และฉันก็จะเข้มแข็งขึ้น” ผมคิดว่าเพลงของพวกเราเล่าเรื่องเล่าเกี่ยวกับสิ่งนี้ พวกคุณจะผ่านพ้นอุปสรรคไปได้ทุกอย่าง แค่เชื่อมั่นว่าคุณทำได้ คุณมีพลังมากพอที่จะผ่านไปได้ เมื่อไรที่คุณมองย้อนกลับไปได้ คุณก็จะมีความสุขกับสิ่งที่คุณทำได้ครับ
ไหนๆ ก็เพิ่งทัวร์คอนเสิร์ตที่เมืองไทย คุณชอบอะไรในเมืองไทยบ้าง
Chuck: เยอะแยะเลยครับ อันดับแรกแฟนเพลงชาวไทยก่อนเลย พวกเขาทั้งยอดเยี่ยม ใจดี และน่าทึ่งมากที่ยังคงติดตามพวกเรามาหลายต่อหลายปี อาหารไทยก็อร่อย พวกเราชอบลองอาหารใหม่ๆ เวลาไปเดินทาง ผมชอบเที่ยวในไทยด้วยครับ จริงๆ แล้วการได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ วัฒนธรรมใหม่ๆ จากประเทศต่างๆ เป็นเรื่องที่ดีมาก สนุกมาก พวกเราชอบมาก พวกเราขอบคุณวงมากๆ ที่ทำให้พวกเราได้มีโอกาสดีๆ แบบนี้
พวกเรามักจะหาเวลาเที่ยวและออกไปดูบ้านเมืองในประเทศที่พวกเราได้ไปทัวร์ แม้ว่าแต่ละที่จะอยู่ไม่ได้นาน แต่พวกเราก็พยายามลองทุกอย่างเท่าที่เราจะลองได้ พวกเราไม่ใช่วงที่จะอยู่แต่ในโรงแรม แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่ชอบที่สุดก็คงหนีไม่พ้นการได้แสดงคอนเสิร์ตที่นี่ครับ พวกเราโชคดีมากที่มักจะได้แสดงโชว์ดีๆ เสมอ ดีมากเหมือนที่ได้มาไทยคราวที่แล้วเลย น่าทึ่งมากๆ เลยครับ
แล้วแผนการทำงานในปี 2023 มีอะไรบ้างสำหรับ Simple Plan
Chuck: พวกเราจะยังคงทัวร์คอนเสิร์ตต่อไปครับ พวกเราเพิ่งประกาศทัวร์ในอเมริกากับวง The Offspring และ Sum41 ดังนั้นมันดูน่าสนุกมาก แล้วพวกเราก็จะทัวร์ที่ยุโรปในเดือนมิถุนายน คอนเสิร์ตเพิ่มเติมในแคนาดาช่วงฤดูร้อน พวกเราอาจจะเริ่มทำเพลงใหม่ด้วยเหมือนกัน แต่ตอนนี้ยังมีอีกหลายที่ที่พวกเราต้องไป ระหว่างเล่นคอนเสิร์ตอาจจะคิดดูอีกทีว่าจะเอายังไงต่อไปครับ
สุดท้ายแล้ว อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ ชาวไทยบ้าง
Chuck: พวกเราอยากบอกพวกคุณว่า “ขอบคุณครับ” (ภาษาไทย) สำหรับการสนับสนุนพวกเรามาโดยตลอด พวกเราซาบซึ้งมากๆ และขอโทษด้วยที่ใช้เวลานานมากกว่าพวกเราจะกลับมาหาทุกคน ขอบคุณที่ยังคงอยู่กับพวกเรา และพวกเราจะกลับมาหาทุกคนเร็วๆ นี้ หวังว่าในปี 2023 พวกเราจะได้กลับมาทัวร์ในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กันอีกครั้ง หวังว่าจะเจอทุกคนนะครับ!
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น